107 จำนวนผู้เข้าชม |
บ้านเปล่าหรือบ้านพร้อมเฟอร์ฯ แบบไหนคุ้มกว่ากัน
เวลาจะซื้อบ้านเราคงเคยสังเกตว่าจะมีทั้งโครงการที่ขายบ้านเปล่าและบ้านพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ว่าแต่การขายบ้าน 2 แบบนี้มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง แล้วคุณชอบการซื้อบ้านแบบไหน ถ้าอยากทราบลองเข้ามาอ่านเลยครับ
บ้านตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์
เรียกกันหลายแบบทั้งบ้านพร้อมเฟอร์ฯ บ้านแต่งครบ บ้านแต่ง Fully Furnished สุดแท้แต่จะเรียกกันครับ แต่จะมีอยู่ 2 แบบ คือบ้านตัวอย่าง ซึ่งโครงการมักจะขายออกไปช่วงท้ายๆ ก่อนปิดโครงการ และบ้านมาตรฐานที่เป็นบ้านเปล่ามาแต่งเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม ซึ่งมักจะเป็นบ้านที่นำมาจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย
ซึ่งข้อดีของบ้านที่ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ก็คือสะดวก ง่ายกับเราครับ เพราะไม่ต้องวัดขนาดพื้นที่บ้าน ไม่เสียเวลาหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ ไม่ต้องยื่นกู้สินเชื่อเพื่อนำเงินมาตกแต่งบ้าน เพราะโครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์มากับบ้าน ทำให้บ้านพร้อมใช้อยู่อาศัยแทบจะทันที เหลือแค่เฟอร์นิเจอร์และของใช้บางชิ้นที่เราซื้อซื้อเพิ่มภายหลัง
ส่วนข้อด้อยของการซื้อบ้านพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นได้ชัดก็คือ เฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้อาจไม่ตรงกับความชอบของเรา หรือไม่ตรงกับความต้องการใช้งานของเรา เพราะโครงการบ้านก็จะเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบกลางๆ มาครับ กลางทั้งสไตล์ สีสัน ที่ส่วนมากเลือกสีเอิร์ธโทนมาให้ ขนาดก็อาจเลือกแบบกลางๆ เช่น โซฟาสำหรับนั่งได้ 2-3 คน แต่โซฟาที่เราอยากได้อาจจะต้องนั่งได้สัก 4 คน เพราะสมาชิกในบ้านเยอะ เป็นต้น.
อีกข้อสำหรับบ้านที่ให้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน แม้เฟอร์นิเจอร์จะลงตัวกับพื้นที่ ทำให้ใช้งานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องยากหากเราอยากปรับเปลี่ยนการใช้งานภายหลัง
บ้านเปล่า
ภายในบ้านก็จะเปล่าๆ ครับ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งใดๆ ทั้งสิ้น จะมีแค่สุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำ ไฟส่องสว่าง ก๊อกน้ำ ที่เกี่ยวข้องกับงานระบบน้ำ ไฟของบ้าน บางแห่งอาจให้โครงสร้างครัวปูนมาในห้องครัวด้วย ส่วนหน้าบานตู้ต่างๆ อาจจะมีหรือไม่มีก็ตามแต่นโยบายของโครงการ
ซึ่งข้อดีของการซื้อบ้านเปล่าก็คือ เราสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ตามสไตล์ที่เราต้องการ เช่น เราอาจชอบเฟอร์นิเจอร์สไตล์ย้อนยุคก็สามารถไปหาซื้อในใช้งานในบ้านได้เลย ซึ่งแหล่งเลือกช้อปปิ้งหาเฟอร์นิเจอร์ก็มีมากมายครับ ทั้งในห้างสรรพสินค้า IKEA, Index Living Mall, HomePro, SB Furniture ฯลฯ ซึ่งเราก็สามารถเดินเลือกแบบสไตล์ ขนาดเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงทดลองใช้งานเฟอร์นิเจอร์นั้นก่อนได้
อีกเรื่องคือเหมาะสำหรับคนที่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว เช่น ย้ายจากบ้านเก่ามาบ้านใหม่ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดิมๆ ก็ยังสามารถใช้ได้อยู่ ถ้าเป็นแบบนี้ซื้อบ้านเปล่าก็จะเหมาะกับเรามากกว่า
ส่วนข้อด้อยของการซื้อบ้านเปล่าก็คือ เราต้องเสียเวลา เสียพลังงานที่จะไปดูตามแหล่งขายเฟอร์นิเจอร์ แม้ว่าจะมีเว็บไซต์ที่มีรูปเฟอร์นิเจอร์ มีสเปกวัสดุ ขนาด ราคาให้เสร็จสรรพ แต่หลายคนก็ยังอยากจะไปลองใช้ ลองจับของจริงก่อน ถ้าไม่ถูกใจก็จะได้ไม่ซื้อ
ข้อที่สองคือมีความยุ่งยาก นอกจากต้องไปหาซื้อแล้วยังมีภาระเรื่องการขนส่งกลับมาที่บ้านด้วย เพราะผู้ขายเฟอร์นิเจอร์บางรายถ้าซื้อแล้วขนกลับเองก็จะไม่มีค่าขนส่ง แต่ถ้าใช้บริการขนส่งของผู้ขายก็จะคิดค่าขนส่งเพิ่มไปอีกเป็นรายครั้ง ถ้ารายไหนขนส่งให้ฟรีก็ถือว่าเบาภาระไปได้ครับ ได้เฟอร์นิเจอร์กลับมาก็ต้องประกอบอีก อย่าคิดว่าเรื่องง่ายๆ นะครับ อย่างตู้เสื้อผ้านี่ผู้เขียนเคยประกอบเองคนเดียวมาแล้วบอกเลยว่าหนัก เหนื่อยพอสมควรเลย
อีกเรื่องสำคัญที่หลายคนมักลืม
ที่หลายคนลืมนึกถึงคือตอนซื้อบ้านมองแต่เรื่องกู้ซื้อบ้าน ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง ซึ่งก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่ก็มักลืมอีกเรื่องสำคัญไป นั่นคือ
“ลืมเผื่อเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์”
ถ้าคุณย้ายจากบ้านเก่าที่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้วก็คงไม่เป็นปัญหาเท่าไร แต่ถ้านี่เป็นบ้านหลังแรก หรือย้ายจากบ้านของครอบครัวมาสร้างครอบครัวอยู่บ้านใหม่ หรือจะอย่างไรก็ตามที่ลงท้ายด้วยไม่มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ มาใช้ที่บ้านใหม่ รวมถึงราคาติดตั้งผ้าม่านทั้งหลังซึ่งราคาก็มิใช่น้อย บอกได้ว่าปัญหาหนักอยู่นะครับ
เพราะถ้าคุณซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแต่งบ้านใหม่ทั้งหลังนี่ต้องใช้เงินอยู่พอสมควร ทั้งค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าเดินทาง ฯลฯ ยกตัวอย่างว่าเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำนะครับ ถ้าแต่งครบทั้งบ้านต้องเผื่องบไว้สัก...
2 แสนบาท!! ถ้าทาวน์โฮม 2 ล้านบาท ก็ตีไป 10% ของราคาบ้านเลยครับ
โดยส่วนมากการประมาณงบสำหรับตกแต่งที่นิยมคือเผื่อไว้ 10-15% ของราคาบ้าน ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่งบประมาณของเราด้วยนะครับ ยกตัวอย่าง บางคนมีความสามารถผ่อนชำระได้สูงก็อาจเพิ่มงบตกแต่งบ้านไปถึง 20% หรือมากกว่านั้นก็ได้ หรือถ้างบน้อยก็อาจจะเผื่อไว้ที่ 10% หรือลดต่ำกว่านั้นอีกนิดก็ยังได้
และต้องไม่ลืมอีกนะครับว่าหากกู้สินเชื่อเพื่อตกแต่ง ก็จะเป็นเงินกู้อีกก้อนที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่ากู้ซื้อบ้านครับ เพราะเป็นการกู้อเนกประสงค์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ตั้งแต่ 18-28% ต่อปี แล้วแต่โปรโมชั่นของทางธนาคาร ทำให้เรามีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม 2 ต่อ ดังนั้นต้องคำนวนรายจ่ายตรงนี้ไว้แต่เนิ่นๆ ครับ
ซึ่งตรงจุดนี้บ้านแถมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลังก็จะมาช่วยแบ่งเบาภาระในส่วนนี้ได้ ตั้งแต่เรื่องการกู้เงิน เพราะเป็นการกู้เงินครั้งเดียวได้ดอกเบี้ยสำหรับกู้ซื้อบ้านที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่ออเนกประสงค์ ไม่ต้องหาเฟอร์นิเจอร์มาใช้งาน หากไม่ถูกใจชิ้นไหนก็ซื้อมาเปลี่ยนเป็นชิ้นๆ ไป หรือจ่ายเงินซื้อเฉพาะสิ่งที่โครงการไม่ได้แถมมากับบ้านก็ช่วยประหยัดเงินได้เป็นแสนครับ
หรืออีกทางเลือกคือซื้อเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักมาใช้ไปก่อน แล้วค่อยซื้อชิ้นอื่น ๆ มาเพิ่มเติมภายหลัง ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
แหล่งที่มาข้อมูล : https://www.home.co.th/hometips/topic-7762